ผมร่วงเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพของหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง ซึ่งผมร่วงเกิดได้จากหลากหลายสาเหตุ การทำความเข้าใจสาเหตุของผมร่วงเป็นสิ่งสำคัญในการหาแนวทางแก้ไขที่เหมาะสม เพื่อให้คุณเข้าใจและรับมือกับปัญหาได้อย่างถูกต้อง
1. พันธุกรรม (Androgenetic Alopecia)
พันธุกรรมเป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดของผมร่วง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ชาย (ศีรษะล้านแบบผู้ชาย) และผู้หญิง (ผมบางแบบผู้หญิง) หากมีประวัติคนในครอบครัวผมร่วง ก็มีโอกาสสูงที่คุณจะได้รับพันธุกรรมนี้มา โดยทั่วไป ผู้ชายมักเริ่มจากผมที่หน้าผากเถิกขึ้น หรือมีผมบางตรงกลางศีรษะ ในขณะที่ผู้หญิงมักมีผมบางลงทั่วศีรษะ โดยเฉพาะบริเวณกลางกระหม่อม
2. การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน
ความไม่สมดุลของฮอร์โมนในร่างกายสามารถส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของเส้นผมได้ เช่น
- การตั้งครรภ์และการคลอดบุตร: หลังคลอดบุตร ระดับฮอร์โมนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ผมร่วงมากขึ้น แต่โดยทั่วไปจะกลับมาเป็นปกติภายใน 6-12 เดือน
- วัยหมดประจำเดือน: ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลงในวัยหมดประจำเดือน อาจทำให้ผมบางลงได้
- โรคเกี่ยวกับต่อมไทรอยด์: ทั้งภาวะไทรอยด์ทำงานมากเกินไป (Hyperthyroidism) และภาวะไทรอยด์ทำงานน้อยเกินไป (Hypothyroidism) สามารถทำให้ผมร่วงได้
3. ผลข้างเคียงจากยาบางชนิด
ยาบางชนิดอาจมีผลข้างเคียงทำให้ผมร่วงได้ เช่น ยารักษามะเร็ง (เคมีบำบัด) ยารักษาโรคซึมเศร้า ยารักษาโรคหัวใจ และยาลดความดันโลหิต หากสงสัยว่ายาที่คุณใช้อยู่เป็นสาเหตุของผมร่วง ควรปรึกษาแพทย์
4. สภาวะทางการแพทย์
โรคบางชนิดอาจเป็นสาเหตุของผมร่วงได้ เช่น
- โรคผมร่วงเป็นหย่อม (Alopecia Areata): เป็นโรคภูมิต้านตนเองที่ระบบภูมิคุ้มกันโจมตีรูขุมขน ทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมๆ
- โรคเชื้อราบนหนังศีรษะ: การติดเชื้อราบนหนังศีรษะ อาจทำให้ผมร่วงเป็นหย่อมๆ และมีอาการคันหรือเป็นขุย
- โรคแพ้ภูมิตัวเอง (Lupus): โรคนี้อาจทำให้ผมร่วงได้เช่นกัน
5. ความเครียด
ความเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจ อาจทำให้เกิดภาวะผมร่วงแบบ Telogen Effluvium ซึ่งเป็นภาวะที่เส้นผมเข้าสู่ระยะพักตัวเร็วกว่าปกติ ทำให้ผมร่วงมากขึ้น โดยทั่วไปภาวะนี้จะดีขึ้นเมื่อความเครียดลดลง
6. การขาดสารอาหาร
การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น โปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินบี และวิตามินดี อาจส่งผลต่อสุขภาพเส้นผมและทำให้ผมร่วงได้ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และครบถ้วนจึงเป็นสิ่งสำคัญ
7. การจัดแต่งทรงผม
การจัดแต่งทรงผมที่แน่นเกินไป เช่น การมัดผมแน่น การถักเปียแน่น หรือการใช้สารเคมีกับผมบ่อยๆ อาจทำให้ผมร่วงได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาวะ Traction Alopecia ซึ่งเกิดจากการดึงรั้งของเส้นผมอย่างต่อเนื่อง
สิ่งที่ควรทำเมื่อผมร่วง:
- ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณกังวลเกี่ยวกับผมร่วง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังหรือผู้เชี่ยวชาญด้านเส้นผม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงและรับการรักษาที่เหมาะสม
- ดูแลสุขภาพโดยรวม: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และจัดการความเครียด
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม: เช่น การใช้ความร้อนกับผมมากเกินไป การใช้สารเคมีรุนแรง และการจัดแต่งทรงผมที่แน่นเกินไป
การทำความเข้าใจสาเหตุของผมร่วงจะช่วยให้คุณรับมือกับปัญหาได้อย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ หากคุณมีข้อสงสัยหรือกังวล ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอคำแนะนำและการรักษาที่เหมาะสม
วิธีการดูแลด้วยตัวเองเบื้องต้น
- การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์: การรับประทานอาหารที่สมดุลและมีสารอาหารครบถ้วนเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพเส้นผม ควรเน้นอาหารที่มีโปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี ไบโอติน วิตามินบี วิตามินซี วิตามินดี และวิตามินอี ซึ่งมีส่วนช่วยในการบำรุงและเสริมสร้างความแข็งแรงของเส้นผม ตัวอย่างอาหารที่ควรรับประทาน ได้แก่ เนื้อสัตว์ ปลา ไข่ นม ถั่ว ผักใบเขียว ผลไม้ ธัญพืช และถั่วต่างๆ
- การหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำร้ายเส้นผม: ควรหลีกเลี่ยงการทำผมที่รุนแรง เช่น การมัดผมแน่นเกินไป การถักเปียแน่น การใช้ความร้อนกับผมบ่อยๆ (เช่น การไดร์ผม การหนีบผม) การใช้สารเคมีกับผมมากเกินไป (เช่น การย้อมผม การดัดผม) และการหวีผมขณะผมเปียก
- การจัดการความเครียด: ความเครียดเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผมร่วงได้ การจัดการความเครียดอย่างเหมาะสม เช่น การออกกำลังกาย การทำสมาธิ การพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยลดผมร่วงได้
- การนวดหนังศีรษะ: การนวดหนังศีรษะเบาๆ จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะ ทำให้รากผมได้รับสารอาหารมากขึ้น และส่งเสริมการงอกใหม่ของเส้นผม
- การพักผ่อนให้เพียงพอ: การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอจะช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูและซ่อมแซมส่วนต่างๆ รวมถึงเส้นผม ทำให้เส้นผมแข็งแรงและลดการหลุดร่วง
- เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและหนังศีรษะสูตรอ่อนโยน ปราศจากสารเคมีอย่าง Papilla Haircare Hair Rewind ที่มีส่วนผสม Phyto-Revive Complex ซึ่งช่วยยับยั้งฮอร์โมนที่ทำให้ผมร่วง กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม และเพิ่มจำนวนและขนาดของรูขุมขน
- ทำทรีตเมนต์หนังศีรษะอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยรักษาสมดุลของหนังศีรษะในขณะที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมที่แข็งแรง อย่าง ทรีตเมนต์ S.E.P Activator ที่ PAPILLA B YKIM LIM HAIR & SCALP CENTRE ด้วยเทคโนโลยี Scalp Electroporation ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ล้ำลึกกว่าการปลูกผมทั่วไปถึง 17 เท่า โดยไม่ต้องฉีด และไม่ทำร้ายผิว พร้อมกระตุ้นการไหลเวียน เร่งผมเกิดใหม่ภายใน 3 เดือน
เปิดแล้ววันนี้ PAPILLA by KIM LIM Hair & Scalp Centre เซ็นเตอร์ให้บริการดูแลหนังศีรษะและเส้นผมครบวงจร No.1 จากสิงคโปร์* ที่มอบประสบการณ์การดูแลหนังศีรษะดุจผิวหน้า ฟื้นผมหนาอย่างเป็นธรรมชาติโดย ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น พร้อมให้คุณมาสัมผัสแล้ววันนี้
พร้อมยกระดับการดูแลหนังศีรษะจองหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line: @papillabykimlimth
เวลาทำการ จันทร์-อาทิตย์ เวลา 11.00 - 20.00 น.
Location : Erawan Bangkok ชั้น 4 (BTS ชิดลม)
